เอ็มจี เปิดตัว NEW MG HS PHEV ชูแนวคิด “REFINEMENT” ขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต เหนือระดับด้วยเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ที่ให้ความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ

  • เทคโนโลยี Plug-in Hybrid ให้พละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า แบตเตอรี่ 16.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถเลือกขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV Mode) ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร
  • ติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานสูงมากถึง 25 ระบบ พร้อมทั้ง Advanced Driver Assistance Systemสนับสนุนช่วยเหลือผู้ขับขี่เทียบเท่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous) ระดับ 2 
  • พร้อมเปิดตัวสู่สาธารณชนครั้งแรกที่งาน Fast Auto Show Thailand 2020 และโชว์รูมเอ็มจีทั่วประเทศ 28 ตุลาคมนี้

 

   บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มรถ SUV และรถยนต์พลังงานทางเลือกในประเทศไทย ประกาศเปิดตัว NEW MG HS PHEVชูแนวคิด REFINEMENT”พร้อมขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต โดยสะท้อนถึงความเหนือระดับ ทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และการแนะนำเทคโนโลยี Plug-in Hybridที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพให้พละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion แบบโมดูล ขนาดใหญ่ 16.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)ทำให้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV Mode) ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่โชว์รูมและศูนย์บริการเอ็มจีทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป

   มร. จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“เอ็มจีก้าวเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อ7 ปีที่แล้ว ซึ่งต้องเผชิญกับการตั้งคำถามและความท้าทายมากมายทั้งนี้จากความทุ่มเททำงานอย่างหนักตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพร้อมเป้าหมายให้รถยนต์เอ็มจีทุกรุ่นจะต้องตอบสนองความต้องการที่แท้จริงและสามารถสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าด้วยการนำเทคโนโลยีชั้นแนวหน้าของตลาดรถยนต์ระดับโลกมาไว้ในรถยนต์เอ็มจี โดดเด่นด้วยการสร้างเอกลักษณ์ที่เน้นการออกแบบภายนอกที่มีไดนามิคและดีไซน์ที่เป็นแฟชั่นระบบส่งกำลังที่เต็มประสิทธิภาพ การควบคุมที่ดีเยี่ยมระบบความปลอดภัยทั้งแบบ Activeและ Passive ที่ครบครันตลอดจนระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตซึ่งได้รับความชื่นชอบจากผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงเครือข่ายผู้จำหน่ายของเอ็มจีที่ได้ขยายและมีความแข็งแกร่งมากขึ้นทำให้เอ็มจีสามารถยืนหยัดในประเทศไทยได้อย่างมั่นคงและได้รับการยอมรับในวงกว้างโดยมีผู้บริโภคที่ชื่นชอบแบรนด์และรถยนต์เอ็มจีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเอ็มจียังคงเดินหน้าผลักดันผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยยึดมั่นใน 3 องค์ประกอบหลักที่เป็นหัวใจสำคัญของเอ็มจี ได้แก่ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science and Technology) แฟชั่น (Fashion) และความคุ้มค่า (Value for money)พร้อมไปกับการยกระดับการให้บริการที่ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับตลาดรถยนต์เมืองไทย และต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รถยนต์คันที่100,000ได้ผลิตออกจากโรงงานของเรา ซึ่งก็คือNEW MG HS PHEVที่เปิดตัวในวันนี้ ถือเป็นรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบที่สี่ต่อจากเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ดีเซล และรถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย”

   “ผมเชื่อว่าทุกท่านมีความคาดหวังและความมั่นใจกับการพัฒนาของเอ็มจีในประเทศไทยวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ เราจะทำงานอย่างหนัก ขยันและทุ่มเท เพื่อให้มีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเอ็มจีจะยังคงเปิดตัวรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง และให้การบริการที่ดียิ่งขึ้น ที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของโลก เพื่อตอบสนองความต้องการด้านรถยนต์และประสบการณ์การขับขี่ของผู้บริโภคคนไทยต่อไปเพื่อบรรลุเป้าหมายอีกหนึ่งแสนคันเร็วๆนี้”

   นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยความโดดเด่นทั้งในด้านการออกแบบรวมไปถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ให้ความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ที่มาพร้อมความคุ้มค่าทำให้รถยนต์เอ็มจีได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากผู้บริโภคชาวไทย และสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำกลุ่มรถ SUV ได้ในระยะเวลาเพียงไม่นาน สำหรับ NEW MG HS PHEVเป็นโมเดลรุ่นล่าสุดที่เราภาคภูมิใจ โดยมาพร้อมแนวคิด REFINEMENT”ซึ่งต่อยอดความโดดเด่นจาก MG HS  โดยการเพิ่มความเหนือระดับทั้งในเรื่องของสมรรถนะที่เป็นเยี่ยมจากเทคโนโลยีขั้นสูงของระบบ Plug-in Hybridพร้อมการออกแบบที่สวยงามลงตัวและการติดตั้งระบบอำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยครบครัน เพื่อให้เป็นรถที่เหมาะสมและคู่ควรกับผู้ที่ต้องการความหรูหราเหนือระดับและเทคโนโลยีขั้นสูง”

   NEW MG HS PHEVขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมนวัตกรรม Hairpin Design พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดใหญ่ 16.6 kWh และระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ EDUII –10Speeds มีกำลังสูงสุด 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร สามารถเลือกขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ได้ไกลสูงสุดถึง 67 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยเหนือระดับมาตรฐานยุโรป หรือ Advanced Synchronized Protection System มากถึง 25 ระบบและเพิ่มความหรูหราของการตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยสี 2-Tone Monaco Blue พร้อมวัสดุผิวสัมผัสนุ่มแบบ Soft Touch เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sport Bucket Seat โอบกระชับ มีห้องโดยสารเงียบยิ่งขึ้นจากการเพิ่มฟิล์มกันเสียงและแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสารหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ขนาดใหญ่ 1.1 ตารางเมตร เพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทาง พร้อมเสริมความสะดวกสบายในการขับขี่ด้วยหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้วและจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ 10 นิ้ว ระบบเสียงเหนือระดับด้วย BOSE 8.1 Sound System รวมถึงระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART รองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย

   “NEW MG HS PHEV” มีสีตัวถังทั้งหมด 3 สี ได้แก่สีขาว Arctic White โดยมีสีภายในแบบ 2-ToneMonaco Blue  ในขณะที่ตัวถังสีแดง Scarlet Red และสีดำ Black Knight จะมาพร้อมการตกแต่งภายในสีดำ

   “NEW MG HS PHEV จะเปิดตัวต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการ ในงาน Fast Auto Show Thailand 2020 ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายนนี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา และที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีทั้ง 138 แห่งทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคมเป็นต้นไปทั้งนี้บริษัทฯ จะทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

###

 

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ NEW MG HS PHEV

 

NEW MG HS PHEV “REFINEMENT” พร้อมขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต

   รถ SUV รุ่นล่าสุดของเอ็มจี ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ผสานพลังสุดยอดแห่งระบบขับเคลื่อน 2 ระบบเข้าด้วยกัน ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เพิ่มขีดสุดให้สมรรถนะในการขับขี่ พร้อมเทคโนโลยีและระบบ                  ความปลอดภัยขั้นสูง ครบครันด้วยองค์ประกอบการดีไซน์ที่โดดเด่น ภายใต้แนวคิด Brit Dynamic ที่ผสานทั้ง สมรรถนะ (Performance) การควบคุม (Handling) การออกแบบ (Design) และความปลอดภัย (Safety)                           ได้อย่างลงตัว

 

REFINED PERFORMANCE: ขุมพลังแห่งการขับเคลื่อนที่สมบูรณ์แบบของระบบปลั๊กอินไฮบริด               

   NEW MG HS PHEVขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid มีพละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 480นิวตันเมตร จากขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด250นิวตันเมตรและมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้กำลังสูงสุด122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด230นิวตันเมตรมีระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 Speeds ที่ใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์เพียง 0.2 วินาที ตอบสนองได้อย่างทันใจ และเพิ่มความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ภายในเวลา 7.5 วินาทีมาพร้อมรูปแบบการขับขี่ถึง 5 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco โหมด EV และโหมด Sport เสริมด้วยปุ่ม Super Sport ที่สามารถเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น

   แบตเตอรี่ในNEW MG HS PHEV เป็นแบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบ 6 โมดูล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูง โดยมีขนาดใหญ่ถึง16.6 kWh ทำให้มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพในการสะสมพลังงานได้มากกว่าจึงวิ่งได้นานขึ้น รวมถึงการทำระยะทางได้มากขึ้น โดยสามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า100% สูงสุดถึง 67 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีในมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Hairpin Design ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถดึงสมรรถนะของการส่งกำลังและลดอัตราการสูญเสียพลังงานได้ดียิ่งขึ้นพร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Coolant ซึ่งดีกว่าระบบระบายความร้อนแบบปกติ ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอีกทั้งยังเพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยในการขับขี่ด้วยแบตเตอรี่ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก AMERICANUL2580และผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น

   NEW MG HS PHEVมาพร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ที่สามารถชาร์จพลังงานในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) โดยเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 3 ระดับ และด้วยเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ทำให้ NEW MG HS PHEVมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดอยู่ที่65 กิโลเมตรต่อลิตร* และมีการปล่อยค่าไอเสีย หรือคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 36 กรัมต่อกิโลเมตร

*อ้างอิงข้อมูลจาก Eco Sticker

 

   NEW MG HS PHEVให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ด้วยระบบกันสะเทือนของช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension เสริมด้วยระบบช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut และช่วงล่างหลังแบบ Multi-link ที่มาพร้อมเหล็กกันโคลงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้มั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่บนทุกสภาพถนน

 

REFINED EXTERIOR: ขีดสุดของการออกแบบ

   NEW MG HS PHEVมีความโดดเด่นทางด้านดีไซน์ที่ยกระดับพื้นฐานมาจากรถยนต์ C-SUV ยอดนิยม อย่าง “MG HS” ซึ่งผสานความหรูหราและความสปอร์ตได้อย่างลงตัว มีการใช้เส้นสายตัวถังที่โค้งมน ในรูปแบบ British Shoulder Line กระจังหน้าเอกลักษณ์เฉพาะของเอ็มจีแบบStellar Magnetic Field ไฟหน้าแบบLED Projectorพร้อมระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)ไฟท้าย LED Space Light Field ที่มีความโฉบเฉี่ยวและไฟเลี้ยวแบบ Sequential ที่แสดงผลแบบไล่ระดับทั้งด้านหน้าและด้านหลังเพิ่มเอกลักษณ์ความเป็นรถยนต์ Plug-in Hybrid ด้วยล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ในสไตล์ Thunder Wing Bladeขนาด 18 นิ้ว

 

REFINED INTERIOR & UTILITY: สะดวกสบายตลอดเส้นทาง

   NEW MG HS PHEVตกแต่งห้องโดยสารภายในด้วยสี 2-Tone Monaco Blue ใส่ใจในทุกรายละเอียดด้วยวัสดุSoft Touch เบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Bucket Seat ตกแต่งด้วยวัสดุ Alcantara เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เพิ่มความเป็นส่วนตัวในห้องโดยสารด้วย NVH Luxury Silence Space เพิ่มฟิล์มกันเสียง และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร ที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก พร้อมหลังคาซันรูฟที่เปิดกว้างแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) บนพื้นที่เกือบ 90% ของพื้นที่หลังคา มอบประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่ด้วยจอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว และจอควบคุมกลางแบบทัชกรีนขนาด 10 นิ้ว ระบบเสียง BOSE 8.1 Sound Systemพร้อมสร้างบรรยากาศและสีสันให้กับการขับขี่ด้วย Interactive Ambient Light ที่สามารถปรับเฉดสีได้มากถึง 64 เฉดสี

   นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกฝั่ง Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ PM 2.5 ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Key  พร้อมปุ่ม Push Start และฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้าเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน

 

REFINED i-SMART: รู้ใจกว่าที่คิด

   NEW MG HS PHEVมีการติดตั้งระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่ทำให้เอ็มจีเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี การเชื่อมต่อ โดยทำให้ผู้ขับขี่สามารถสื่อสารกับรถเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยี AI ที่สามารถตอบโจทย์ ผู้ขับขี่ด้วย Smart Command ที่สามารถสั่งการระบบผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทยหรือควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟนพร้อมยกระดับความสมาร์ทเพื่อความปลอดภัยด้วย Emergency Call ซึ่งเป็นระบบโทรหาคนสำคัญอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินเมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน Smart Connectเชื่อมต่อโลกออนไลน์อย่างชาญฉลาดสามารถเลือกฟังเพลงได้ทั้งรูปแบบออนไลน์และสตรีมมิ่ง ระบบค้นหาร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวพร้อมนำทางและรายงานการจราจรแบบ Real Time รวมทั้งการอ่านข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างทันเหตุการณ์ และยังสามารถอัพเกรดระบบได้เองผ่านช่องทางออนไลน์Smart Checkที่มีระบบ Charging Management ในการตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ และการค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้า รวมถึงการตรวจสอบสถานะรถยนต์และเตือนเมื่อมีสถานะผิดปกติสั่งการล็อคหรือปลดล็อคประตูรถ ค้นหารถด้วยระบบ Find My Car และการเข้าถึงบริการ Passion Service ของเอ็มจี ช่วยค้นหาศูนย์บริการ รวมถึงการบันทึกการดูแลรักษารถตามระยะผ่าน MG Mobile Application

 

REFINED SAFETY: ปลอดภัยรอบคัน

   NEW MG HS PHEVมีระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย (Full Space Frame) และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System กว่า 25 ระบบ โดยแบ่งออกเป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรกและช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่จำนวน 14 ระบบ และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือระบบช่วยควบคุมการขับขี่และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจำนวน 11 ระบบ

   สำหรับระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ถือเป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ระดับที่ 2 (Partial Automation) โดยแบ่งเป็น3 กลุ่มหลัก ดังนี้

 

กลุ่มระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา RDA (Rear Drive Assist)

  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA(Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)

 

กลุ่มระบบเตือนและควบคุมให้รถอยู่ในเลน LAS (Lane Assist System)

  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
  • ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA(Lane Keep Assist)

 

กลุ่มระบบที่ช่วยในการขับขี่ FDA (Front Drive Assist)

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC(Intelligent High-Beam Control)

   นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัย 6 จุด กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) และระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

   สำหรับผู้ที่สนใจรถยนต์เอ็มจีหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจีได้ที่

Website: www.mgcars.com

Line: @MGThailand

Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand

Twitter: @mg_thailand

Instagram: @mgthailand

Youtube: MG Thailand

TikTok: @mgthailand

 

Hashtag #NEWMGHSPHEV#MGThailand #MGCarsTH #PassionDrives

###