ไขความลับวิสกี้พรีเมียมระดับโลก “โอลด์ พุลท์นี่ย์” มอลต์แห่งท้องทะเล ผสานเอกลักษณ์ซิงเกิ้ลมอลต์วิสกี้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างลงตัว

มร. มัลคอล์ม แวริง Pulteney Distillery Manager และ วรเทพ จันทร์ดีราช แบรนด์แอมบาสเดอร์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด

 

   ในยุคปัจจุบันที่คนรุ่นใหม่นิยมเสาะแสวงหาสุนทรียรสใหม่ๆ ในวัฒนธรรมการดื่มที่มีสีสันและไม่หยุดนิ่ง เครื่องดื่มที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานอย่างวิสกี้นั้น นับว่าเป็นเครื่องดื่มที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวที่จะเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับไลฟ์สไตล์การดื่มในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี โอลด์ พุลท์นี่ย์ พรีเมียมซิงเกิ้ลมอลต์ สก็อตช์วิสกี้ระดับโลก ต้นตำรับมอลต์แห่งท้องทะเล (The Maritime Malt) เปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ตอกย้ำคุณภาพเหนือระดับจากโรงกลั่นในเมืองวิค (Wick) หนึ่งในโรงกลั่นจากดินแดนเหนือสุดของสกอตแลนด์ เพื่อประกาศความสำเร็จที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ในฐานะวิสกี้มอลต์แห่งท้องทะเลที่มีรางวัลการันตีจากสุดยอดกูรูวิสกี้ระดับโลกมาแล้วหลายรางวัล

   โดยคอลเล็กชั่นใหม่นี้ ยังมาพร้อมการปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 8 ปี เผยลุคใหม่ที่สะท้อนตัวตนและเรื่องราว อันยาวนานของโอลด์ พุลท์นี่ย์ด้วยดีไซน์ใหม่หมดจดทั้งกล่อง ขวด และโลโก้ที่โดดเด่นชวนมอง และน่าสะสม สะท้อนถึงความร่วมสมัย นำเสนอเรื่องราวที่เป็นตำนานของแบรนด์ให้เข้ากับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีความหลงใหลในวิสกี้ และไลฟ์สไตล์การดื่มในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว นอกจากนี้บนแพ็กเกจของโอลด์ พุลท์นี่ย์ทุกขวด ยังมีสัญลักษณ์รับรองคุณภาพจากกระบวนการผลิตอันพิถีพิถันทุกขั้นตอน คือลายเซ็นของผู้จัดการโรงกลั่น “มร. มัลคอล์ม แวริง” ชายผู้อยู่เบื้องหลังการผลิตทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือกถังไม้โอ๊กที่ใช้ในการบ่มโอลด์ พุลท์นี่ย์ ให้เหมาะสมในแต่ละรุ่นเพื่อให้รสสัมผัสยังคงมีเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเป็นผู้มีถิ่นกำเนิดเดียวกับโอลด์ พุลท์นี่ย์ในเมืองวิค เขาได้สั่งสมประสบการณ์ในศาสตร์ทุกแขนง ของการบ่มมอลต์วิสกี้ชั้นเลิศ เป็นเวลากว่าสามทศวรรษ และในปี 2018 เขาได้รังสรรค์วิสกี้รสชาติใหม่อันโดดเด่นอย่าง ฮัดดาร์ตโอลด์ พุลท์นี่ย์ 15 ปี และโอลด์ พุลท์นี่ย์18 ปี ขึ้นเพื่อเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัว เพิ่มเติมจากรุ่นดั้งเดิมของโอลด์ พุลท์นี่ย์ อย่างโอลด์ พุลท์นี่ย์12 ปี เพื่อสืบสานภูมิปัญญาแห่งการรังสรรค์มอลต์ แห่งท้องทะเล ตลอดจนเสริมสร้างความน่าสนใจ และมัดใจผู้บริโภคในวงกว้างมากขึ้น

   เพื่อตอกย้ำถึงความเป็นวิสกี้แห่งท้องทะเลระดับตำนาน จึงได้มีการจัดกิจกรรมมาสเตอร์คลาสขึ้น ณ ห้องอาหาร เอเลเมนท์ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ห้องอาหารไฟน์ไดน์นิ่งระดับ 1 ดาวมิชลิน ได้รับรางวัลถึง 2 ปีซ้อน ในบรรยากาศน่าประทับใจลงตัวด้วยความหรูหรามีสไตล์ของห้องอาหารและวิสกี้คุณภาพระดับโลกเพื่อให้คอวิสกี้ได้ลิ้มลองวิสกี้คอลเล็กชั่นใหม่ทั้ง 4 รสชาติพร้อมเผยเบื้องหลังกระบวนการหมักบ่ม แบบเจาะลึกถึงแก่นแท้โดย มร. มัลคอล์ม แวริง (Malcolm Waring)Pulteney Distillery Managerที่ได้เดินทางมาถ่ายทอดความรู้ด้วยตนเอง

   มร. มัลคอล์ม เริ่มจากการบอกเล่าถิ่นกำเนิดของโอลด์ พุลท์นี่ย์ ณ เมืองวิค ดินแดนเหนือสุดของเขตไฮแลนด์ในสกอตแลนด์ เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรเพียง 4,000 คน แต่นับเป็นท่าเรือประมงที่คึกคักที่สุดของยุโรป ในฐานะแหล่งปลาเฮร์ริงอันดับหนึ่งของโลกในอดีต ที่นับเป็นช่วงยุคเฟื่องฟูของเมืองท่าแห่งนี้ อันได้รับสมญานามว่าเป็นดินแดน Silver & Gold โดย Silver หรือเงินนั้นมาจากสีของปลาเฮร์ริง และ Gold หรือทองก็คือสีของวิสกี้นั่นเอง ประวัติความเป็นมานั้น โรงกลั่นโอลด์ พุลท์นี่ย์ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1826 โดย เซอร์ วิลเลี่ยมจอห์นสโตน พุลท์นี่ย์ (Sir William Johnstone Pulteney) มร. มัลคอล์ม ได้นำตัวอย่างวัตถุดิบเช่น มอลต์  ยีสต์ พีทที่ใช้ในการอบบาร์เลย์ มาให้ได้ชม และยังได้เจาะลึกกระบวนการผลิตตั้งแต่การแช่บาร์เลย์ที่มีการใช้น้ำ และยีสต์ช่วย จากนั้นนำมาบดและหมัก ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการกลั่นแบบซิกเนเจอร์ของ โอลด์ พุลท์นี่ย์ คือการใช้หม้อกลั่นแบบจมูกสั้นหรือ flat top ก่อน เพื่อให้กลิ่นเวียนวนอยู่ภายใน ก่อนที่จะใช้หม้อกลั่นแบบจมูกยาวเพื่อเพิ่มระดับแอลกอฮอล์ (Wash still and Spirit Still) ปัจจุบันโรงกลั่นของโอลด์พุลท์นี่ย์ นับเป็นหนึ่งในโรงกลั่น 15 แห่งจากทั้งหมด 200-300 แห่งในสกอตแลนด์ ที่ยังคงกรรมวิธีตามแบบแผนเดิมเอาไว้ด้วยเคล็ดลับความแตกต่าง และเอกลักษณ์ทำให้โอลด์ พุลท์นี่ย์ ว่า 80% ของสี กลิ่น และรสชาติของโอลด์ พุลท์นี่ย์ได้มาจากถังไม้โอ๊กที่ใช้ในการบ่ม 

ในฐานะผู้ให้กำเนิดสมาชิกใหม่ของครอบครัวโอลด์ พุลท์นี่ย์  มร. มัลคอล์ม ภูมิใจนำเสนอความพิเศษและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของวิสกี้ทั้ง 4 รุ่นในคอลเล็กชั่นดังนี้

 

-         Old Pulteney12 ปี คือดีเอ็นเอของโอลด์ พุลท์นี่ย์ ในแบบฉบับมอลต์แห่งท้องทะเลอย่างแท้จริงเมื่อดมจะได้กลิ่นอายทะเลที่เป็นเอกลักษณ์มอลต์แห่งท้องทะเล ผสานกับถังไม้โอ๊กอเมริกัน(ex-bourbon casks)ช่วยขับความหวานและรสชาติแสนคลาสสิกอย่างกลิ่นอายทะเล หอมกลิ่นซิตรัสอ่อนๆ วนิลา คาราเมล และบัตเตอร์สก็อตช์

 

-         Old PulteneyHuddart คอลเล็กชั่นนี้ตั้งชื่อตามถนนที่ตั้งโรงกลั่นโอลด์ พุลท์นี่ย์ ผ่านกระบวนการผลิตตามแบบแผนดั้งเดิมความพิเศษเป็น non-age statementที่ผ่านกรรมวิธีบ่มถึง 2 ถัง คือ ถังไม้โอ๊กอเมริกัน Bourbon และจบด้วยถังไม้โอ๊ก ex-peated cask โดยมีกรรมวิธีคล้ายรุ่น1989Vintage ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็นซิงเกิ้ลมอลต์วิสกี้ที่ดีที่สุดในโลกมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน หอมกลิ่นสโมคกี้ ผสมกับน้ำผึ้ง แอปเปิ้ลเขียววนิลา และน้ำตาลไหม้

 

-         Old Pulteney 15 ปี วิสกี้สีเข้มลุ่มลึก โดดเด่นด้วยการบ่ม 2 ถัง เริ่มจากบ่มครั้งแรกในถังไม้โอ๊กอเมริกัน 12 ปีและอีก 3 ปีในถังไม้โอ๊กเชอร์รี่สเปนนิชที่ทำให้มีความหวาน รสชาตินุ่มนวลให้สัมผัสถึงกลิ่นผลไม้แห้งหลายชนิด แอปเปิ้ลและซิตรัส ตามด้วยความหวานของน้ำผึ้ง หอมกลิ่นวนิลา มีกลิ่นช็อคโกแลตและดอกไม้ ที่ปลายลิ้น

 

-         Old Pulteney18 ปีเป็นการนำเสนอให้เห็นศาสตร์แห่งการทำวิสกี้ ที่ตำแหน่งที่ตั้งและสภาพแวดล้อมของ โรงบ่มวิสกี้นั้นมีผลต่อคาแรกเตอร์ของวิสกี้ โดยโรงบ่มแบบดั้งเดิม (Dunnage Warehouse) ของโอลด์ พุลท์นี่ย์18 ปี ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีความชื้นสูงส่งผลให้รสชาติมีเอกลักษณ์ที่มาพร้อมกับสีเฉพาะตัวจากถังไม้โอ๊กอเมริกันและถังไม้โอ๊กเชอร์รี่สเปนนิช เข้มข้นและอบอุ่นด้วยกลิ่นช็อคโกแลต วนิลา น้ำผึ้ง และเครื่องเทศ ปิดท้ายด้วยกลิ่นซิตรัสและแอปเปิ้ลรสชาติของรุ่นนี้มีความซับซ้อนมาก

เมนูค็อกเทล The Silver & Gold Sour จากการครีเอทด้วย Old Pulteney รุ่น 12 ปี

 

   สำหรับความพิเศษของมาสเตอร์คลาสครั้งนี้ คือการนำวิสกี้รุ่น 12 ปี มาครีเอทเป็นเมนูค็อกเทล The Silver & Gold Sour เพื่อเชื่อมโยงวิสกี้เข้ากับวัฒนธรรมการดื่มยุคในปัจจุบัน ที่ผู้คนล้วนแสวงหารสชาติใหม่ๆที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ และทำให้นักดื่มยุคนี้เข้าถึงวิสกี้ได้ง่ายขึ้น เพื่อสร้างความรู้สึกว่าวิสกี้ไม่ใช่เครื่องดื่มที่ดื่มยาก และเข้าถึงยาก สามารถผสานเข้ากับเมนูเครื่องดื่มที่ช่วยชูรสชาติให้โดดเด่น และมีเอกลักษณ์ได้เป็นอย่างดี

   นอกจากนี้คอวิสกี้ยังได้เพลิดเพลินกับสุนทรียรส ของการจับคู่กับเมนูอาหารมื้อค่ำสุดหรูแบบเอ็กซ์คลูซีฟ “Old Pulteney Whisky Dinner: Journey to the Maritime Malt” ที่นำวิสกี้แต่ละรุ่นมาจับคู่กับเมนูจานพิเศษทั้ง 4 คอร์สที่ช่วยเสริมรสชาติวิสกี้ให้กลมกล่อมยิ่งขึ้น โดยเชฟ อัลวาโร โรอ์ (Alvaro Roa) หัวหน้าพ่อครัวใหญ่จากห้องอาหาร เอเลเมนท์ ได้เผยถึงความท้าทายในการคิดค้นเมนูมาจับคู่กับวิสกี้ที่มีรสชาติเข้มข้นและลุ่มลึกว่า “เราได้นำวัตถุดิบที่หลากหลายมาผสมผสานกันจนเป็นจานเด็ดอย่างเมนู Tuna-Oyster, Pickles &Dashi (ปลาทูน่า และหอยนางรม กับแตงกวาดอง ในน้ำซุปปลาตำรับญี่ปุ่นหรือดาชิ) เพื่อจับคู่กับโอลด์ พุลท์นี่ย์12 ปี จานถัดมาเป็น Maitake Mushroom-Eryngii, Wood Sorrel & Lotus Roots เมนูผักที่นำเห็ดไมตาเกะ เห็ดออรินจิ มาผสานกับพืชผักพื้นเมืองอย่างส้มกบ และรากบัว จับคู่กับโอลด์ พุลท์นี่ย์ Huddart ต่อด้วย Hokkaido Scallop, Watercress, Ikura& Dill หอยเชลล์จากฮอกไกโด ราดซอสผักสลัดน้ำ โรยไข่ปลาแซลมอน และผักชีลาวเพื่อจับคู่กับโอลด์ พุลท์นี่ย์ 15 ปี และปิดท้ายด้วย Short Rib Matsuba, Japanese Leek &Umebushi เนื้อMatsuba ส่วนซี่โครงราดซอสต้นหอมญี่ปุ่น และบ๊วยเพื่อรับประทานคู่กับโอลด์ พุลท์นี่ย์ 18 ปี เป็นการมอบประสบการณ์ใหม่ เพื่อเข้าถึงรสชาติเอกลักษณ์ของวิสกี้มอลต์แห่งท้องทะเล ระดับตำนานได้อย่างงดงาม”

สำหรับคอวิสกี้ในเมืองไทยสามารถสัมผัสโอลด์ พุลท์นี่ย์ คอลเล็กชั่นใหม่ ได้ที่ร้านพรีเมียมชั้นนำโรงแรมชื่อดังมากมาย และ พารากอนดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป#OLDPULTENEY #MaritimeMalt

###