ฟอร์ดพัฒนา “Sleep Suit” แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงเมื่อขับขี่ขณะง่วงนอนที่อันตรายพอๆ กับการเมาแล้วขับ

  • ฟอร์ด แสดงให้เห็นถึงอันตรายจากการขับขี่ขณะร่างกายเหนื่อยล้า ซึ่งเป็น1 ใน 5 ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ด้วยชุด “Sleep Suit” ที่ออกแบบพิเศษเพื่อการวิจัยนี้โดยเฉพาะ
  • ผลวิจัยเปรียบเทียบว่าการง่วงแล้วขับส่งผลร้ายแรงพอๆ กับการเมาแล้วขับ โดยใช้“Sleep Suit”จำลองอาการหลับในทำให้ผู้ขับขี่ขาดสติสัมปชัญญะและการมองเห็น
  • ฟอร์ดเชิญชวนผู้ขับขี่วัยหนุ่มสาวร่วมทดลอง “Sleep Suit”ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Ford Driving Skills For Life” (DSFL) หรือ “ฉลาดขับ ประหยัด ปลอดภัย”ที่สอนขับรถโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจากฟอร์ด

   หากคุณเห็นเพื่อนหรือคนรักกำลังหยิบกุญแจจะไปสตาร์ทรถหลังจากปาร์ตี้หนักมาทั้งคืน แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่จะบอกให้คนเหล่านั้นเอากุญแจมาและอาสาขับรถให้แทน แต่ถ้าหากว่าเพื่อนยังคงยืนกรานที่จะขับรถเองทั้งๆ ที่อยู่ในสภาพที่แสนเหนื่อยล้า พวกคุณจะทำอย่างไร

   อาการเหนื่อยล้าเป็น 1 ใน 5 ปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดรถชนบนท้องถนนนอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการอดนอนเกิน 18 ชั่วโมงยังลดสมรรถนะการขับขี่ ซึ่งเปรียบได้กับการเมาแล้วขับเลยทีเดียว

   ฟอร์ดได้ออกแบบชุดจำลองสภาวะง่วงนอน“Sleep Suit” ที่ช่วยให้ผู้สวมใส่รับรู้ได้ถึงผลกระทบที่เกิดจากอาการเหนื่อยล้า และเพราะอุบัติเหตุจากยานพาหนะเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของคนวัยหนุ่มสาว บริษัทจึงได้จัดโครงการฝึกอบรม“Ford Driving Skills For Life” (DSFL) หรือ "ฉลาดขับ ประหยัด ปลอดภัย”ซึ่งเป็นโครงการสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 17-24 ปี

   "การขับขี่ขณะเหนื่อยล้า มีความเสี่ยงที่จะทำให้คุณขับรถเหมือนกับซอมบี้ และนั่นนำมาซึ่งอันตรายต่อตัวคุณเอง ผู้โดยสารและทุกๆ คนที่อยู่บนท้องถนนเดียวกับคุณ"ดร.กันดอล์ฟ ไมเออร์-เฮนท์เชลซีอีโอของสถาบันไมเออร์-เฮนท์เชล ผู้พัฒนาชุด“Sleep Suit” กล่าว “คนยุคใหม่มักจะบังคับตัวเองให้อดนอนอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเล่นโซเชียลมีเดีย ทำงานติดต่อกันยาวๆ หรืออ่านหนังสือเตรียมสอบ”

   ชุด Sleep Suit ประกอบด้วยแว่นตาพิเศษที่จำลองอาการเหนื่อยล้าอย่างรุนแรง รวมถึงอาการหลับใน ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ และยังทำให้คนขับเกิดอาการตาบอดชั่วขณะได้ถึง 10 วินาทีหรือมากกว่านั้นทั้งๆ ที่ตายังเปิดอยู่ ซึ่งระยะเวลาเท่านี้อาจหมายถึงการขับรถไปได้ไกลหลายร้อยเมตรโดยที่เราไม่รู้ตัวหรือจำเหตุการณ์ได้เลย

   แว่นตาพิเศษจะเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนจำลองสภาวะที่สมองหยุดทำงานและผู้ขับขี่จะสูญเสียการมองเห็นเริ่มจากครึ่งวินาทีและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงสิบวินาที นอกจากนี้ยังต้องสวมใส่หมวกแก๊ป เสื้อกั๊ก สนับแขนและสนับเข่าออกแบบพิเศษที่หนักรวมกันกว่า 18 กิโลกรัม ซึ่งจะให้ความรู้สึกเหมือนกับผู้ขับขี่ที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเหนื่อยล้า โดยในประเทศสหรัฐอเมริกา อุบัติเหตุง่วงแล้วชนมาจากผู้ขับขี่ที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปีเป็นส่วนใหญ่

   “พวกเราตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะรณรงค์เรื่องการง่วงไม่ขับ และ Sleep Suit ก็เป็นวิธีที่ดีที่จะสามารถเข้าถึงผู้คนได้” จิม เกรแฮม ผู้จัดการฟอร์ด DSFL กล่าว“คนมักรู้สึกซาบซึ้งที่เพื่อนหรือคนในครอบครัวอาสาขับรถให้เวลาพวกเขาออกไปเที่ยว แต่การที่คนเหล่านั้นไม่ได้ดื่มของมึนเมาก็ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะพวกเขาอาจจะเหนื่อยล้าจากการอดนอนทั้งคืนก็เป็นได้”

แล้วจะทำอย่างไร หากคุณคิดว่ากำลังเหนื่อยล้าเกินกว่าจะขับรถ? ดร. กันดอล์ฟ ไมเออร์-เฮนท์เชลแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้

  • จอดรถข้างทางทันทีที่ปลอดภัย
  • ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและพักนอนประมาณ 20 นาที
  • คุณจะรู้สึกสดชื่นขึ้นหลังจากตื่นและพร้อมเดินทางต่อ (หากไม่ ให้ลองหาวิธีอื่นที่จะช่วยให้คุณกลับบ้านหรือจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย)

# # #